เรื่องควรรู้ของแหวนนพเก้าที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

เครื่องประดับที่กำลังมีกระแสมาแรงและได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ คือ แหวนนพเก้าที่เป็นการนำอัญมณี 9 ชนิดมาเรียงกันบนแหวน ซึ่งถือว่าเป็นแหวนมงคลเรียกทรัพย์ที่มีผู้ค้นพบรายละเอียดภายในตำราโบราณ จึงนำมาสู่การสร้างสรรค์แหวนบนตัวเรือนที่มีความสวยงาม พร้อมการใส่อัญมณีทรงพลังไว้ถึง 9 ประเภท และ 9 สีสัน จึงทำให้แหวนประเภทนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบเครื่องประดับจิวเวลรี่เป็นอย่างมาก

แหวนนพเก้า เครื่องประดับมงคลตามความเชื่อของไทย

แหวนนพเก้ามีประวัติความเป็นมาตามตำราโบราณของอัญมณีไทยที่ยาวนานกว่า 100 ปี โดยเป็นแหวนมงคลที่มาพร้อมความเชื่อด้านการเรียกทรัพย์สมบัติและการทำให้ชีวิตรุ่งเรือง ร่ำรวย ส่วนมากแล้วแหวนนพเก้าจะเป็นตัวเรือนทองคำ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นความหมายที่ดีของการเป็นที่ยึดเหนี่ยวอัญมณี 9 ประเภท 9 สีไว้บนตัวเรือน จึงถือว่าเป็นสิริมงคลอย่างมาก ซึ่งในอดีตถูกเรียกว่าแหวนพิรอดนพเก้าที่จะมีการใส่อัญมณี 9 ประเภทไว้ภายในแหวนวงเดียวกัน คือ เพชร, ทับทิม, บุษราคัม, มรกต, ไพลิน, มุกดาหาร, โกเมน, ไพฑูรย์ และเพทาย โดยไพฑูรย์นั้นจะถูกเรียกว่าเพชรตาแมวและไพลินคือนิลกาฬ ที่เป็นชื่อเรียกตามสมัยโบราณ นอกจากนี้ยังถูกเรียกว่าแหวนนพรัตน์ที่ไม่ได้สวมใส่แค่เพียงการเรียกโชคลาภและทรัพย์สมบัติเข้าหาตัวเท่านั้น

แต่ยังมีในบางผู้ใช้ที่เน้นเรื่องอำนาจวาสนาและบารมี รวมไปถึงเรื่องของการมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว การป้องกันภัยจากสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ซึ่งในอดีตแหวนนพเก้าจะมีอยู่เฉพาะในกลุ่มของพระมหากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ และขุนนางชั้นสูงเท่านั้น สำหรับดีไซน์ของแหวนในยุคโบราณจะเป็นตัวเรือนสีทองและมีจุดใส่อัญมณี 9 สีเป็นวงกลม มีความหมายถึงความเป็นนิรันดร์หรือมีความหมายแบบสากลว่า Infinity แต่เมื่อยุคเวลาเปลี่ยนไปแหวนนพเก้าที่เริ่มจางหาย ไปจากวงการเครื่องประดับ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในรูปแบบของแหวนที่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ เพื่อให้เหมาะสมต่อคนยุคนี้มากยิ่งขึ้น

การกลับมาครั้งนี้ไม่จำกัดให้ต้องมีเฉพาะแค่ในวงการระดับสูงเท่านั้น แต่คนทั่วไปสามารถสวมใส่เพื่อเสริมบุคลิกที่ดูสง่างามและเสริมในด้านต่าง ๆ ของชีวิตให้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ที่มีความสวยงามมากกว่าเดิม มาพร้อมคุณสมบัติที่ยังคงเน้นเรื่องความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตของผู้สวมใส่และการคงไว้ซึ่งอัญมณีมงคล 9 ประเภท และ 9 สีที่อยู่บนตัวเรือนเหมือนกับในความเชื่อโบราณทั้งหมด โดยจะมีการเรียงสีและอัญมณีทั้ง 9 ดังนี้

สีเหลืองนวลไพฑูรย์หรือเพชรตาแมว
สีแดงเพทาย
สีเขียวมรกต
สีชมพูทับทิม
สีขาวเพชรสว่างสดใส
สีฟ้าหรือน้ำเงินไพลิน
สีส้มบุษราคัม
สีขาวนวลมุกดาหาร
สีแดงอมส้มโกเมน

ตามตำราโบราณเชื่อว่าอัญมณีทั้ง 9 ชนิดนี้ เปรียบเสมือนดาวเคราะห์ 9 ดวงภายในระบบสุริยะจักรวาล และดาวทั้ง 9 ดวงนี้ยังมีเทพประจำดาวที่ให้การดูแลอยู่ จึงเป็นการดึงพลังจากดวงดาวมาสู่ตัวแหวน เพื่อทำให้เกิดสิริมงคลในทุกด้านของชีวิต เท่ากับว่าความหมายของแหวนนพเก้าจะหมายถึงความเป็นมงคล 9 ด้าน คือ

ความยิ่งใหญ่ ชนะศัตรู
ความร่ำรวย ความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ความกล้าหาญและการป้องกันภัย
การมีเสน่ห์ เป็นที่รักและที่เอ็นดูของบุคคลทั่วไป
การมีสุขภาพที่ดียืนยาว
การเป็นผู้ที่มีแต่คนรัก มีแต่คนเมตตา
ความบริสุทธิ์ ความร่มเย็นและความคิดดี
การชนะทุกความชั่ว
เทพคุ้มครอง

เมื่อแหวนนพเก้าหรือในอีกหลากหลายชื่อที่เป็นมงคลถูกเผยแพร่ออกสู่คนทั่วไป จึงทำให้เกิดเป็นความนิยมในเครื่องประดับแหวนที่มีคนสั่งทำมากที่สุด โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นการใช้ตัวเรือนเป็นทองคำมากกว่าตัวเรือนประเภทอื่น เพราะถือว่าตรงตามตำราโบราณ นอกจากนี้ยังมีผู้ซื้อแหวนหลายรายสลักชื่อและนามสกุลลงไปด้วย พร้อมการถูกทำเป็นแหวนแต่งงานและแหวนหมั้นที่กำลังได้รับความนิยมเช่นกัน ดังนั้นแหวนนพเก้าจึงถือว่าเป็นเทรนด์เครื่องประดับแหวนที่มาแรงมากในยุคนี้